“บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโต อย่างมั่นคงและยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นผู้นำ ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน แก่สังคมและประเทศไทย”


นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์

ประธานกรรมการ

“บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน” พร้อมผลักดันเป้าหมายการพัฒนา อย่างยั่งยืนร่วมกับ การดำเนินธุรกิจหลัก ของบริษัทฯ แบบบูรณาการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจและ การเติบโตอย่างยั่งยืน”


นายกฤษฎา ประเสิรฐสุโข

กรรมการผู้จัดการ

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ“) มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นองค์กรต้นแบบที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี

ปี 2567 ทั่วโลกยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบในหลายมิติ รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้า ที่ยังคงมีแนวโน้มต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อการจัดการห่วงโซ่อุปทานของสินค้าและบริการในการผลิตสินค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นทั่วโลก ภูมิทัศน์ทางธุรกิจ (Business Landscape) ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ผนวกกับทั่วโลกต่างตระหนักถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของโลกได้อย่างยั่งยืน

บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติให้ประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริง “Execution for Success” พร้อมผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) ที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจปัจจุบัน และสร้างความยืดหยุ่นในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงรอบด้าน พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการดำเนินธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ ธุรกิจเคมีชีวภาพ ธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน

ในปี 2567 บริษัทฯ มีแนวทางตอบสนองต่อกลยุทธ์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 มิติ ซึ่งประกอบไปด้วย

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment): บริษัทฯ ยึดมั่นการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยดำเนินการผ่านวิธีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization Pathway) และความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขต 1 และ 2 ลง 20% ภายในปี 2573 และตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 นอกจากนี้ยังมีการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขต 3 ลง 50% ภายในปี 2593 โดยกลยุทธ์ที่สำคัญประกอบด้วย

Efficiency-driven การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือกในกระบวนการผลิต เพื่อตอบสนองต่อเส้นทางสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ (Decarbonization Roadmap)

Portfolio-driven การปรับโครงสร้างธุรกิจในระยะยาวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำโดยผ่านการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงมากขึ้น โดยต่อยอดการใช้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ เป็นวัตถุดิบตั้งต้น เช่น ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ และผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ ซึ่งสอดคล้องต่อกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะเติบโตในธุรกิจดังกล่าว

Compensation-driven การสรรหาเทคโนโลยีและการดูดซับจากธรรมชาติเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงแสวงหาเทคโนโลยีการนำคาร์บอนที่ปลดปล่อยจากกระบวนการผลิตตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ตามเป้าหมาย

ด้านสังคม (Social): บริษัทฯ มุ่งมั่นสู่การป้องกันและลดผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยการยกระดับโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) สู่การดำเนินโครงการด้านการสร้างคุณค่าเชิงเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม (Creating Shared Value: CSV) และโครงการด้านกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้แก่ภาคเกษตรกรรมของประเทศตลอดห่วงโซ่อุปทาน ผ่านโครงการการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Sustainable Palm Oil Production and Procurement Project for Climate Mitigation and Adaptation: SPOPP CLIMA) ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดความสำเร็จจากการรับรองกลุ่มเกษตรกรรายย่อย ตามมาตรฐานการปลูกปาล์มอย่างยั่งยืน (Roundtable Sustainable Palm Oil: RSPO) ภายใต้โครงการการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (Sustainable Palm Oil Production and Procurement Project: SPOPP) โดยดำเนินการร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย โดยมุ่งเน้นในการสร้างองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรรายย่อยที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน RSPO ในโครงการ SPOPP ให้สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาต่อยอดในการคำนวณคาร์บอนฟุตปริ้นท์สำหรับผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันทะลายสด และมีแนวทางการจัดการสวนปาล์มแบบคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ เพื่อพัฒนามาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน ในประเทศไทย สร้างคุณค่าร่วมกับคู่ค้าและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินงานเพื่อพัฒนาโครงการ SE Project Health & Personal Care Product ของวิสาหกิจชุมชนเกาะกก ต. เนินพระ อ. เมืองระยอง จ. ระยอง อย่างต่อเนื่อง และเสริมศักยภาพให้กับชุมชนเกาะกกเพื่อเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่นในอนาคต

ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance): บริษัทฯ แสดงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ตามหลักธรรมภิบาลการกำกับดูแลที่ดี และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้เสีย โดยยึดตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการปฏิบัติตามมาตรฐานทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ผ่านการดำเนินการบูรณาการ การกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการกำกับการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ (Governance, Risk Management, and Compliance: GRC)

จากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ตอบสนองต่อแนวโน้มและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน บริษัทฯ ได้รับการรับรองและรางวัลต่าง ๆ ในระดับสากล อาทิ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน S&P ESG Global Yearbook 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีคะแนนอยู่ในลำดับที่ 4 และได้รับการจัดลำดับด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ในระดับ B (Management Level) จากสถาบันประเมินด้านความยั่งยืน Carbon Disclosure Project (CDP) นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับรางวัลจาก EcoVadis ในระดับ Gold ของกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์พื้นฐาน ซึ่งเป็นผู้ประเมินและจัดอันดับ (Rating) ด้านความยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานด้านการพัฒนาธุรกิจขององค์กรอย่างยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม พร้อมก้าวไปสู่ “To be a Global Sustainable Company”

ในนามของคณะกรรมการบริษัทฯ ผู้บริหาร และพนักงาน ขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนที่สนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา แม้ว่าบริษัทฯ จะต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินธุรกิจให้มั่นคงอย่างยั่งยืน เพื่อการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน แก่สังคมและประเทศ ต่อไป