ความท้าทายและความมุ่งมั่น

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในหลักความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินการด้านภาษี เพื่อสร้างความไว้วางใจและประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยบริษัทฯ ได้จัดทำนโยบายภาษีภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี และดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ จรรยาบรรณด้านภาษี การบริหารความเสี่ยงด้านภาษี และความโปร่งใสด้านภาษี

ผู้มีส่วนได้เสียหลัก

ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และนักวิเคราะห์
ลูกค้า
ภาครัฐ
คู่ค้า และคู่ค้าทางธุรกิจ
ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

แนวทางการดำเนินงานด้านภาษี

บริษัทฯ จัดทำนโยบายด้านภาษี เพื่อกำกับดูแล บริหารความเสี่ยง และเปิดเผยข้อมูลด้านภาษีอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

ความโปร่งใสทางด้านภาษี

บริษัทฯ ได้เปิดเผยข้อมูลการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นประจำทุกปีในประเทศที่มีการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งประกอบไปด้วย ข้อมูลรายได้รวมของบริษัทฯ กำไรจากการดำเนินงาน และการจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนี้

การชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี 2567 (ล้านบาท)

ประเทศไทย*
ประเทศที่มีฐานการผลิต
รายได้รวม**
()
กำไรจากการดำเนินงาน***
-
การจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล
-
การค้างจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล
จำนวนพนักงาน

*100% ของรายได้มาจากประเทศไทย
** รายได้จากการขายและบริการ
***กำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษี (Profit before tax)

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลัก (Primary Activities) ในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์โอลีโอเคมี (Oleochemical Industry) โดยมีฐานการผลิตหลักอยู่ที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังร่วมมือกับบริษัทร่วม/คู่ธุรกิจในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการกำกับดูแลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทร่วมและคู่ค้าทางธุรกิจในการดำเนินธุรกิจทั้งหมดจะดำเนินการสอดคล้องตามแนวทางการดำเนินงานด้านภาษีของบริษัทฯ ที่ได้วางไว้

หน่วยงานและกิจกรรมทางธุรกิจหลักของกลุ่ม GGC
ประเทศไทย การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ
Global Green Chemicals Public Company Limited ผลิต จำหน่าย และขนส่ง ผลิตภัณฑ์โอลิโอเคมี
บริษัทฯ ในเครือ
GGC Biochemical Co., Ltd. การลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศ
บริษัทฯ กิจการร่วมค้า
Thai Ethoxylate Co., Ltd. ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์อีทอกซีเลท
บริษัทฯ กิจการร่วมค้าทางอ้อม
GGC KTIS Bioindustrial Co., Ltd. ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและเอทานอลจากอ้อย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเผยอัตราภาษีที่ได้รายงาน (Reported Tax Rates) และอัตราภาษีที่จ่ายจริง (Actual Tax Rates) ในปี 2566 และ 2567 ดังนี้

หน่วย: ล้านบาท

รายละเอียด ปี 2566 ปี 2567 ค่าเฉลี่ยที่คำนวณได้
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงานก่อนหักภาษี (120) (220) -
จำนวนภาษีที่ได้รายงาน 82 45 -
อัตราภาษีที่ได้รายงาน (ร้อยละ) (68.33) (20.45) (44.39)
ภาษีที่จ่ายจริง 120 - -
อัตราภาษีที่จ่ายจริง (ร้อยละ) (100) - (50)

ทั้งนี้ บริษัทฯ บริหารจัดการภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายประเทศไทยอย่างถูกต้อง ในปี 2567 บริษัทฯ มีอัตราเฉลี่ยทางภาษีที่ได้รายงาน (Reported Tax Rate) ที่ร้อยละ (20.45) และภาษีที่จ่ายจริงอยู่ที่ร้อยละ 0 เนื่องจากผลการดำเนินการของบริษัทขาดทุน จึงไม่มีภาษีที่ต้องจ่าย

การตรวจสอบอัตราภาษีที่แท้จริงของบริษัทฯ (An Audit of GGC’s Actual Tax Rate) สามารถอธิบายดังต่อไปนี้

หน่วย: ล้านบาท

รายละเอียด อัตรา ปี 2566 อัตรา ปี 2567
กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษี (120) (220)
ภาษีเงินได้ โดยใช้อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของประเทศไทย 20% (24) 20% (44)
รายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี - -
รายจ่ายที่มีสิทธิหักได้เพิ่ม (7) (89)
ผลขาดทุนสะสมทางภาษี 92 59
ค่าใช้จ่ายต้องห้ามทางภาษี 5 3
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า 17 113
รายการผลแตกต่างชั่วคราว - -
อื่น ๆ (1) 3
รวม 12.49% 82 (20.45%) 45

หมายเหตุ

ผลประกอบการจากการดำเนินงานที่ได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษี เป็นผลขาดทุนทั้งหมด 529 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ขาดทุนจากการดำเนินงานของโครงการเมทิลเอสเตอร์แห่งที่ 1 จำนวน 529 ล้านบาท และขาดทุนจากการดำเนินงานของโครงการเมทิลเอสเตอร์แห่งที่ 2 จำนวน 86 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีจากบัตรส่งเสริมการลงทุนของโครงการกลีเซอรีนแห่งที่ 2 จำนวน 86 ล้านบาท โดยมีคำอธิบายดังนี้

  1. รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีจากสิทธิประโยชน์ BOI จำนวน 8,852 ล้านบาท และ 12,296 ล้านบาท ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ
  2. ค่าใช้จ่ายต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของกิจการที่ได้รับยกเวินภาษีจากสิทธิประโยชน์ BOI จำนวน 9,055 ล้านบาท และ 12,819 ล้านบาท ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ
  3. รายการปรับปรุง: ผลจากการบวกกลับค่าใช้จ่ายต้องห้าม และหักค่าใช้จ่ายที่สามารถหักได้เพิ่ม / รายได้ที่ได้รับลดหย่อนจากสิทธิประโยชน์ภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนภายใต้ประมวลรัษฎากรและพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน จำนวน (114) ล้านบาท และ (6) ล้านบาท ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ